อิสระภาพ ครอบครัว ความหวัง และ รางวัล

อิสระภาพ ครอบครัว ความหวัง และ รางวัล
โอกาสเป็นของคนเราเท่ากัน

Welcome to Sukij's blog(ยินดีต้อนรับเข้าสู่ สุกิจ's blog)

Welcome to Sukij's blog(ยินดีต้อนรับเข้าสู่ สุกิจ's blog)
ธุรกิจเครือข่าย(ขายตรง)หลายชั้น

นำเสนอ ธุรกิจขายตรง เครือข่ายหลายชั้น MLM สินค้าประเภท เครื่องอุปโภค และ บริโภค(Multi Level Marketing of Consumer Product)

Monday, April 6, 2009

ตอกย้ำความเป็น"ขายตรง" ภาคที่1



วันนี้ท่าน นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เดินทางมาประชุมที่ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เนื้อหาคงเป็นเรื่องการจัดระเบียบเมืองพัทยา เศรษฐกิจท้องถิ่น และเข้ามาแนะนำตัวอย่างเป็นทางการเพราะตั้งแต่รับตำแหน่งมาท่านก็ตระเวนเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อเป็นการตรวจเยี่ยมประชาชน ตามระเบียบปฏิบัติของนายกรัฐมนตรี ทางเมืองพัทยาเราก็ขอให้การต้อนรับ และยินดีเป็นอย่างยิ่งต่อการเยี่ยมเยือนของท่านในครั้งนี้ ม็อบสี.........ก็เลยได้รับอนิสงค์ถูกหน่วยงานราชการและผู้ดูแลในเขตเมืองพัทยาขอความกรุณาให้หยุดชุมนุมสัก1-2 วันในช่วงท่าน นายกฯมาตรวจเยี่ยม บ้านเมืองเราเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ทุกฝ่ายมีสิทธิ์ในส่วนของแต่ละบุคคล

Wednesday, March 4, 2009

ธุรกิจ...ธุรกิจ...ธุรกิจ ความฝันของคนเล็ก หัวใจใหญ่

เช้าวันพฤหัสบดีที่ 05 มีนาคม พ.ศ.2552
ผมตื่นนอนขึ้นมาด้วยความรู้สึกกระปี้ประเปร่า กว่าทุก ๆวันด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบ หรือจะเป็นเซ้นต์ที่จะทราบว่า เว็บบล็อคของผม บริษัท สุภาภัทร จำกัด ติด index ของ เว็บ www.google.com/searchengin ครับ เป็นธรรมดาของคนทำธุรกิจทางโลกออนไลน์ไม่ว่าจะมือสมัคเล่นหรือมืออาชีพก็พยายามที่จะหาทางทำให้ web-site หรือ web-log ของตนติดอันดับใน search-engin ของระบบค้นหาบนโลกออนไลน์ (ซึ่งตอนนี้ระบบติดตามค้นหา search-enginที่มีอันดับต้น ๆของโลกก็คือ http://www.google.com/ และ http://www.msn.com/ ) เพราะมันเป็นช่องทางของการโปรโมทเว็บ และ เป็นความภูมิใจของเราชาวโลกไซเบอร์ที่จะมีชื่อติดอยู่บนระบบสืบค้นหาของ http://www.google.com/ เหมือนว่าธุรกิจเล็ก ๆของเรากำลังทำการตลาดชนิดหนึ่ง ที่เริ่มจะนำเสนอออกสู่สาธารณะได้แล้ว ภูมิใจ...ภูมิใจ...ภูมิใจ ครับ

  • ธุรกิจ...ธุรกิจ...และธุรกิจ อะไร?คือคำจำกัดความของคำ ๆนี้ ส่วนตัวผมเองคิดว่ามันน่าจะหมายถึง"การค้า,การขาย ใด ๆ ไม่ว่าจะเป็น สินค้า,บริการ,คำปรึกษาที่ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนกัน ทั้งเงินทอง หรือเป็นสิ่งอื่นที่มีมูลค่าเหมาะสมตามที่ คู่สัญญาตกลงใจและยินยอมพร้อมกันทั้ง 2 ฝ่าย"นี่ก็น่าจะเป็นคำจำกัดความของคำว่า ธุรกิจ ได้ในอีกแง่มุมหนึ่ง .

  • เมื่อ วานนี้(วันพุธที่ 04 มีนาคม พ.ศ.2552)ช่วงเช้าผมดูรายการข่าว "จับเงินชนทอง" มีเนื้อหาข่าวที่ 2 พิธีกร(จำชื่อไม่ได้ครับ) อ้างถึงแม่ค้า "ข้าวหลาม"จังหวัดตอนเหนือ จังหวัดหนึ่งแจ้งมาในจดหมายรำพึงรำพันถึงความทุกข์ว่าขณะนี้กำลังถูก สรรพากร ประเมินภาษีรายได้จากการค้าขาย"ข้าวหลาม"ซึ่งมีราคากระบอกละ 7 บาท และค้าขายมานานกว่า 10 ปีแล้ว คร่าว ๆสรรพากรท่านประเมินแบบพยากรณ์(เก่งกว่าหมอดู)บางท่านที่โด่งดังในประเทศไทยเสียอีกว่า แม่ค้ารายนี้ต้อง(ไม่ป่วย,ไม่หยุด,ไม่...ไม่...ไม่....ใช่คน แล้ว) ขายได้วันละ 500 บาทอย่างแน่นอน ชึ่งเดือนหนึ่งก็ต้องมีรายได้ 15,000 บาท ปีหนึ่งก็มีรายได้ 15,000 x 12 เดือน =180,000 บาท เข้าข่ายถูกประเมินภาษี แน่นอนครับ แต่ก็ต้องหารายจ่ายอื่นมาหัก ลดหย่อน เช่น ค่าเลี้ยงดูบุพพการี,ค่าดอกเบี้ยบ้าน,ค่าดอกเบี้ยประกันชีวิต เป็นต้น ให้รายได้ต่อปีต่ำกว่า 150,000 บาท ก็จะไม่ถูกประเมินภาษี เราชาวไทยทุกคนที่มีรายได้ ก็ควรจะปฎิบัติตามกฎหมาย(ให้เหมือนกันหมดทุกคน น๊ะครับ) เพราะรายได้ที่สรรพากรท่านนำไปก็จะนำไปพัฒนา กระเป๋านักการเมือง....เอ้ย! ประเทศชาติ(รู้ ๆ กันอยู่ แต่พูดไม่ได้) สังคม บ้านเมือง ของประเทศเรา หรือ แม้แต่ต่างประเทศจึง สับสน อลหม่าน คนรวย-คนจน รายได้ และ ช่องทางการหลบซ่อน หนี การชำระภาษี จึงต่างกันราวกับฟ้ากับดิน เลยครับ


  • ภาพรวมของโลกเราตอนนี้ กระแสข่าว ต่างก็ ทยอย ๆออกมาว่า ลำบาก ลำบน กันทั่วทุกหัวระแหง ผมมีสายข่าว เป็นเพื่อนที่อยู่ที่ Germany ก็บอกว่า เศรษฐกิจฝืดเคืองจริง ๆ ยิ่งคนไทยที่อยู่ที่โน่น(ผมว่าคนเอเชียที่ไปอยู่ต่างประเทศทุกที แหละครับ ลำบากทั้งนั้น) ที่ไปทำมา หากิน ก็ ค่นแค้นเหลือเกิน เพื่อนผมอีกคนหนึ่งก็ไปทำงานบนเรือสำราญ ของสหรัฐ มา 3-4 ปี ทำงานหนักมากวันละ 13-14 ชั่วโมง ค่าแรงก็ยังไม่พอเลี้ยงดูครอบครัวเลย ก็ยังต้องกลับมาทำงานในประเทศไทยเพราะถึงแม้ค่าจ้างจะถูกกว่าเมืองนอก แต่ค่าครองชีพก็ต่ำกว่ามาก...มาก


  • ประเทศเรา(เมืองไทย) ยังพอจะแล่นฝ่าฟันกับปัญหาทางเศรษฐกิจ ไปได้อย่างแน่นอน เพราะประชากรไทยเราเมื่อปีพ.ศ.2550 มีตัวเลขอยู่ที่ 67 ล้าน คน มีผู้มีอายุอยู่ในวัยทำงานได้(15-59 ปี)อยู่ประมาณ 47 ล้านคน แต่ตัวเลขผู้ตกงาน และ ทยอยตกงาน ถึงเดือน กุพภาพันธ์ พ.ศ.2552 มีประมาณ 100,000 คน(ถ้าไม่ตกงานทุกเดือนเป็น หมื่นเป็นแสนคน) ถือว่าสัดส่วนยังต่ำมาก มองในมุมของชาวบ้านธรรมดา ๆ ที่ไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์อะไร ๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นธรรมดาที่ภาครัฐก็ต้องเข้าไปเยียวยา เพราะคนกว่าแสนคนก็เป็นพี่น้องชาวไทยของเราเหมือนกัน แต่ จะใช้มาตรการใด?เพราะล่าสุด ใช้มาตรการ แจกค่ายังชีพให้กับผู้มีรายได้(ในระบบประกันสังคม/แต่นอกระบบไม่รู้อีก เท่า ไหร่ๆ) ต่ำกว่า 15,000 บาท(คือ มีรายได้ ต่ำตั้งแต่ 14,999 บาท ลงมาได้หมด) ก็มีอยู่ ราว ๆ 1-2 ล้าน คน x 2,000 บาท ต่อ คน รัฐต้องใช้เงินทั้งสิ้น =4,000 กว่า ล้าน บาท เข้าไปแล้ว(งบประมาณแผ่นดิน ปี พ.ศ.2552 ตั้งไว้ที่ 3.3 แสน ล้าน(ตัวเลขอ้างอิง คร่าว ๆ จากงบประมาณ แผ่นดิน ตั้งระหว่าง ปี พ.ศ.2549-2551) ก็ ยังถือ ว่า O.K. นำเงินมาใช้ ประมาณ 6-7 % ของงบประมาณประจำปี แต่อย่าลืมว่าเงินงบประมาณ เป็นตัวเลขที่ประมาณการ การจัดเก็บภาษี ล่วงหน้าเม็ดเงิน และแหล่งที่มาก็อ้างอิงมาทั้งนั้น มิฉะนั้นเราคงจะไม่ค่อยได้ยินข่าว ว่ารัฐบาลโน่น รัฐบาลนี้ ต้องตั้งสำรองเบิกเงินเกินบัญชี เพราะ ขาดดุล ต่าง ๆ นานา จนเมื่อ วานนี้ 04 มีนาคม พ.ศ.2552 ท่านนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ออกมารณรงค์ ขอความร่วมมือให้หน่วยงานข้าราชการต่าง ๆ ช่วยสัมมนาภายในประเทศไทย เพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศไทย(และ ประสานรอยร้าวภายในใจ ของชนในชาติที่รู้สึก ต่างคนต่างอยากจะเข้ามานั่งในรัฐบาลเพื่อ ตักตวงผลประโยชน์ ภายในตัวด้วย).


  • ผมเอง ปัจจุบัน ทำอาชีพหลักเป็นลูกจ้าง (พนักงานบริษัทฯเอกชน แห่งหนึ่ง มีสาขา กว่า 20 แห่ง ทั่วประเทศไทย เป็นธุรกิจ เกี่ยวกับรถเช่า) และ ก็ ทำอาชีพเสริมหลายอย่าง ด้วยกัน มีรายได้บ้างไม่มีรายได้บ้างก็ให้เป็นไปตามกลไกของระบบตลาด เพราะบนโลกเรานี้ผมว่ามี ประเภทธุรกิจ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนอง ความต้องการของมนุษย์เรา เป็น พัน เป็น หมื่น อย่าง บริษัทฯ ห้างร้าน เอง ก็คงมีไม่น้อยกว่า แสน ๆ กิจการ แน่ ๆ(เห็นมั๊ยครับไม่ใช่เรื่อง ง่าย ๆเลย ที่กิจการใด กิจการหนึ่ง จะเติบโตขึ้นมาได้ และอยู่ให้รอดในโลกเรา ปัจจุบันนี้ นี่ขนาดเรามีกฎหมายลิขสิทธิ์ที่มีมาตรฐาน เหมือนกันทั่วโลก ยังไม่วายจะต้องต่อสู้กับ บรรดาผู้ที่ชอบก็อปปี้ สินค้า หรือ งานบริการ ของคนอื่น ๆอีก กล่าวคือ แค่คิด ก็โดนคนอื่น คว้าเอาไปทำแล้ว) แต่ด้วยความฝันอันสูงสุดของผมอยากมีกิจการเป็นของตัวเอง สักอย่างเอาไว้ชื่นชมและดูแลครอบครัว อ่านหนังสือมาก็เยอะ เคยทำธุรกิจมาบ้าง แต่ก็ไม่ประสพความสำเร็จนัก แต่หัวใจของคนที่อยากทำธุรกิจก็ไม่เคยห่างหายไปเลย ถึงเงินทองไม่อำนวย ผมก็จะหาอะไร ก็ได้ที่ได้ชื่อว่า เป็นธุรกิจ เป็นการค้าขาย เป็นสินค้าที่เราจะนำมาขายได้ให้แก่ คนทั่วไป เพื่อให้เข้าใจว่า คนทำการค้าเข้ามีความรู้สึกกันอย่างไร(ตายไปจะได้ไปเล่าให้ คนโลกโน่นได้รู้ว่า "ข้าก็มีธุรกิจกับเค้าเหมือนกัน น๊ะ...เนี่ย") กิจการที่ผมค่อย ๆเริ่ม สะสม ประติด ประต่อ ขึ้นมา ก็มี อาทิ


  1. ธุรกิจ ขายตรงเครือข่าย หลายชั้น(Multi Level Marketing) สินค้าเป็นพวก ของกิน ของใช้ เบ็ดเตล็ด ทั้งหลาย สินค้า บริษัทฯนี้ถือว่า เวิร์ค มาก มีลูกค้า จริง ๆ


  2. ธุรกิจ ประกันวินาศภัย และ การ ท่องเที่ยว ทั่วประเทศ(รับจัดรถรับส่งสนามบิน และ ทั่วท่องเที่ยวทั่วประเทศ)


  3. ธุรกิจ สินค้า ออนไลน์ ในเครือ amazon บริษัทฯนำเข้าจาก สหรัฐอเมริกา(ชำระสินค้าด้วย บัตรเครดิต หรือ บัตร e-business card) เช่น :-


เห็นมั๊ยครับ แค่นี้เราก็เป็นเจ้าของกิจการบนโลก ไซเบอร์ ได้แล้ว ยุคสมัยเปลี่ยนไปการสื่อสารก็เปลี่ยนไป มนุษย์ต้องการอะไรที่สะดวก และ รวดเร็วขึ้น อีกทั้งการต้องการจะลงทุนในกิจการใดต้นทุนก็ควรต้องต่ำ แต่ผลกำไรควรจะมาก(แฮะ....แฮะ....คิดเข้าข้างตัวเอง เห็น ๆ) ดังนั้น ระบบพาณิชย์ อีเล็คโทรนิค จึงเข้ามาและ ทุกบริษัทฯชั้นนำของโลก ก็กำลังพัฒนาระบบขนส่ง และการชำระเงิน ที่ง่าย และแสนสะดวก สะบาย ให้กับลูกค้า เพื่อเป็นการแข่งขันอีกรูปแบบหนึ่งของเทคนิคการตลาด

  • มีเทคโนโลยี นวัตกรรม ตัวหนึ่งของ บริษัทฯแนวหน้าของโลกอีกบริษัทหนึ่งของโลก ที่ผลิต"หนังสืออีเลคโทรนิค "สินค้าชิ้นนี้มีชื่อว่า kindle device wireless" เป็นการปฏิวัติโลกของหนังสือ อย่างสิ้นเชิง เหมือนเค้าจะรู้ล่วงหน้าว่าในอนาคตวัตถุดิบที่ใช้ทำกระดาษอาจหายาก และอาจจะหมดไป จึงเตรียมอุปกรณ์การอ่าน kindle device wireless ชิ้นนี้ไว้ จะดีแค่ไหน?ถ้าตื่นเช้ามาเราก็สามารถ อับเดทข่าวสาร ข้อมูลทั้งโลก หนังสือน่าอ่านทุกเล่ม กว่า พัน กว่าหมื่นเล่ม ลงมาไว้ใน อุปกรณ์ที่คุณพกพาไปไหน มาไหน ได้สะดวก และเบากว่า note-book ไม่ต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ไม่ต้องเปิดสัญญาน wireless หรือ wifi ไว้ตลอดเวลา ไม่ต้องเสียค่าต่อโทรศัพท์


  • เห็นมั๊ยครับ โลกยุคใหม่ มนุษย์ รักสุขภาพมากขึ้น อยากอยู่กับเย้า เฝ้ากับเรือน(เหมือนจะเป็นผีบ้าน ผีเรือน ยังไงก็ไม่รู้) มากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นใครที่สามารถเกาะตามเทคโนโลยีได้บ้าง และค่อย ๆพัฒนาความรู้ความสามารถ ไปช้า ๆอย่างต่อเนื่อง เราก็จะได้อยู่บนโลกสมัยใหม่ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เอาหล่ะครับนี้ก็ จวนจะมืดแล้ววันนี้นั่งคลุก อยู่กับ คอมพิวเตอร์ทั้งวันเลยเปลี่ยนบรรยากาศไปออกกำลังกายบ้าง ก็แล้วกัน ทุก ๆคนด้วยน๊ะครับ สวัสดีครับ

สุกิจ บุญปก




Saturday, February 28, 2009

ทำไมต้องเป็น"ธุรกิจเครือข่าย"Multi Level Marketing(MLM)

ขณะนี้ประเทศไทยเราอยู่ในช่วงของการประชุม"อาเชี่ยน"(ซัมมิท) มีสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ.ซึ่งก็เป็นการหาหนทางของรัฐบาลในการที่จะกอบกู้และฟื้นฟูเศรษฐกิจ กอรปกับภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้ดูดีขึ้นก็เป็นหนทางของรัฐบาลไป อย่างไรเสียพวกเรา ๆ ชาวบ้านธรรมดาก็คงไม่ได้มีส่วนตัดสินใจใด ๆ กับเขาหลอกน๊ะครับ ปัญหาของชาวบ้านธรรมดาหาเช้ากินค่ำอย่างเราก็คือเรื่องของปาก และท้อง เท่านั้นซึ่งใคร ๆก็ตามหรือบุคคลคณะใดก็ตาม ก็อ้างกันไปว่าทำไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก เราชาวบ้านก็ฟัง ๆ ไปน๊ะครับ นึกเสียว่าฟังละครวิทยุ ดีกว่าอยู่เงียบ ๆ."ตนควรเป็นที่พึ่ง แห่งตน"เป็นสุภาษิตสอนใจมนุษย์ทุกผู้ทุกนามได้อย่างดีที่สุด(ตอนนี้คงต้องใช้กันทั่วโลก....แล้ว ล่ะมั่ง) แม้แต่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา"นาย บารัก โอบาม่า" ได้ประกาศต่อสาธารณะแล้วว่า"ให้ประชาชนชาวพลเมือง สหรัฐอเมริกาทุกคนเตรียมตัวยอมรับต่อโศกนาฏกรรมทางเศรษฐกิจที่ สหรัฐอเมริกาต้องเผชิญต่อไปอีกกว่า 6-7 ปีโดยทุก ๆคนต้องพึ่งพาตัวเองอย่าง กล้าหาญที่สุด" เห็นมั๊ย!ครับ ขนาดประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาเค้ายังกล้าออกมายอมรับ และ พูดเป็น นัยๆว่า(ตัวใคร ตัวมัน....) ทำไม?ผู้นำของเรากลับไม่ยอมบอกอะไร ๆกับเราบ้าง ได้แต่แจกโน่น แถมนี่ จัดประชุมโน่น ประชุมนี่ ฆ่าเวลาไปวัน ๆ (เหมือนหาอาหารมื้อเที่ยงเลี้ยงลูกน้องไปแต่ละวัน) บอกไปเลยเถอะครับว่า"พวกเราทุกคน จงมาร่วม อดมื้อ กินมื้อ ด้วยกัน" แบบนี้ ซิ ครับถึงจะเรียกว่า"ผู้นำ"ที่แท้จริง



  • เกริ่นมาซะ ยาวเลยเรื่อง สังคม การเมือง เศรษฐกิจ ใครได้พูด ได้เขียนก็เหมือนได้ระบายอารมณ์ไปอีกอย่างเหมือนการวาดภาพ อย่าไป ซีเรียส น๊ะครับ เราเป็นประเทศประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิ์เสนอแนะ ข้อคิดเห็นได้ แต่ต้องไม่ หมิ่นเหม่ต่อการระเมิด หรือ ก้าวล้ำสิทธิผู้อื่น ครับ

  • "ทำไมถึงต้องเป็นธุรกิจ ขายตรงเครือข่ายหลายชั้น"


ผมจะลองให้คุณทุกคนลองคิดดูน๊ะครับว่า ถ้าคุณจะประกอบธุรกิจ หรือ ค้าขายสินค้า ซักตัวหนึ่ง คุณต้องทำอะไรบ้าง เช่น สมมติคุณคิด จะขายถั่วทางการเกษตร 1 ตัว(ผมขอแนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งถือเป็น การให้เกียรติแห่งภูมิปัญญาไทย และ ผมก็อุดหนุนสินค้าของ บริษัทฯนี้อยู่บ่อย ๆ ห่อ ละ 7 บาท)




(1)คุณต้องมีความรู้ในส่วนผสม ของ"ถั่ว การเกษตร"นั้น และต้องรู้ว่า ส่วนประกอบที่คลุกเคล้าในถั่ว ถุงนั้น มีแหล่งวัตถุดิบอยู่ที่ใดบ้าง เพื่อจะหาแหล่งที่มีส่วนประกอบดังกล่าวมาเปรียบเทียบและคำนวณหาต้นทุนของส่วนประกอบ(วัตถุดิบ) ดังกล่าว

(2)คุณต้องมีโรงงาน หรือ สถานที่ที่ใช้ในการผสมปรุงแต่ง ถั่วแต่ละถุง ไม่ว่าจะต้อง ทอด คั่ว หั่น ปรุงรส อบ ตาก เก็บกาก และ ขยะที่จะต้องมีหลังจาก คัดเลือก ถั่วและเครื่องปรุงที่จะประกอบคลุกเคล้า เข้ากับถั่ว ต่อมา (3) คุณก็ต้องมีเครื่องจักร เครื่องไม้เครื่องมือในการ นำ "ถั่วทางการเกษตร"บรรจุลงในภาชนะหีบ ห่อ หรือ สิ่งใด ๆก็ตาม ที่จะต้องนำออกสู่ตลาด เพื่อให้เป็นที่ยอมรับ แก่ลูกค้า (4) บนภาชนะ หรือหีบห่อ ก็ต้องมีการจดเอกสารต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่า จะเป็น

(5) เสร็จแล้วก็ต้องทำการตลาด ทั้งในแบบ หา ดีเลอร์ที่จะขอนำผลิตภัณฑ์ ไปวาง ซึ่งบริษัทฯดีเลอร์ที่รับสินค้าเข้าไปวางได้ก็มีอยู่ไม่กี่บริษัทฯ ขายปลีกเองแบบ น็อค-ดอร์ และ การทำธุรกิจ ทาง e-business(การทำweb-site หรือ web-log) รายละเอียดที่กล่าวมาแค่ แซมเปิ้ล ๆ ในเนื้องานของสินค้าซักชิ้น หนักหนาสาหัสกว่านี้เยอะมาก ผมลองเคาะตัวเลข จากรายละเอียดข้างต้น มาแบบคร่าว ๆ ตัวเลขจะโชว์(ประมาณการง่าย ๆ ไม่ต้องใช้สูตรจาก MBA ใด ๆเลย) หย่อนที่ 1,xxx,xxx บาท ไม่เท่าไรเอง(เอ๋ง ๆๆๆๆ) นี่ยังไม่ได้รวมค่าภาษีแต่ละปี ค่าขนส่ง ค่าจ้างพนักงาน และ และ และ และ........อีกมากมาย เห็นมั๊ยครับ แล้วสินค้าดังกล่าวนำมาจำหน่ายในราคา 7 บาท ต่อ 1 ถุง(ผมเห็นใจผู้ประกอบการทุกผลิตภัณฑ์จริง ๆ จากใจเลยครับ)ถ้าการเงิน การบริหาร ไม่แข็งจริง ๆ(แม้แต่บริษัทฯที่มีอายุกว่า 100 ปี ก็ถยอย ขอล้มละลาย กันเป็นแถว ๆแล้วในช่วงเวลานี้)

  • ธุรกิจเครือข่ายขายตรงหลายชั้นกำลังเข้ามามีบทบาทอย่างมากในปัจจุบัน แต่ละผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นกันออกมาล้วนแล้วแต่ใช้ระบบการระบาย หรือ กระจายสินค้าด้วย"ระบบเครือข่ายขายตรงหลายชั้น"แทบทั้งสิ้นในช่วงเวลานี้
  • ผมไม่ได้เขียนเชียร์ หรือ โพสต์ลิ้งค์ โปรโมตสินค้าให้กับบริษัทฯใด บริษัทฯหนึ่ง เพียงเพราะผมเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของบริษัทฯ นั้น ๆ แต่ผมเป็นคน ๆ หนึ่งที่อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น มีอิสระที่จะใช้ชีวิตมากขึ้น มีรายได้ที่ไม่จบสิ้น ได้เห็นโลกกว้าง ไม่ใช่เกิด แล้ว ตายจากโลกนี้ไปโดยไม่เห็นส่วน อื่นๆ ของโลกใบนี้เลย(ด้วยตาตัวเอง) ทุกบริษัทฯ ทุกสินค้า ทุกวงการธุรกิจ ล้วนแล้วแต่เป็นศิลปิน ที่คิดค้นศิลปะมาเสนอ คนดู(หรือ ลูกค้า) ทั้งนั้นไม่มีใคร คิดเอารัดเอาเปรียบ หรือ หลอกลวงต้มตุ๋น(โดยเจตนาจากส่วนลึกของจิตใต้นึก)แต่ ด้วยความไม่มั่นคงของระบบการค้าโลก ที่เป็นตัวทำลายเจตนาของผู้ประกอบการแต่ละกิจการให้ต้องดิ้นรน หาหนทาง อยู่ให้รอดต่อคมหอก คมดาบ ของกลไกตลาด เราจึงพบเห็นการฉ้อฉลต่อลูกค้าจากสินค้าของบางบริษัทฯ กันให้ดาดดื่นในปัจจุบัน
  • เพราะฉะนั้น เราผู้คิดจะเป็น"ผู้บริโภค"(ลูกค้า) หรือ คิดจะเป็น"ผู้ประกอบการ"(เถ้าแก่/หุ้นส่วน) ต้องคิดให้หนัก และ พินิจพิเคราะห์ ให้ดีว่าสินค้าชิ้นนั้นมีคุณค่าคุ้มกับเงินเรามั๊ย? หรือ กิจการที่เราจะทำนั้นให้ผลตอบแทนแก่เราผู้ลงทุนมั๊ย? อยู่ในตลาดได้นานแค่ไหน? นี่คือ ภาระของทั้งผู้บริโภค และ ผู้ประกอบการต้องทำการบ้านทุกคน
  • บริษัทฯขายตรงเครือข่ายหลายชั้น(MLM/Multi Level marketing) ที่ผมเป็นตัวแทนอยู่มีรากฐานบนโลกเรามา กว่า 50 ปี ไม่เคยเข้าระบบกลไกทางการตลาดโลกแบบบริษัทฯอื่น ๆ นั่นคือพอกิจการเติบโตก็นำเข้าตลาดหุ้น เพื่อหากำไรจากการ ออกหุ้นให้สาธารณะเกินกว่ามูลค่า หุ้นที่เริ่มก่อตั้งบริษัทฯ สุดท้าย เวลาล้มก็พังกัน ทั้งตลาด บริษัทฯนี้มุ่ง ทำตลาดแบบโบร่ำ..โบราณ คือ ขายแบบซึ่ง ๆหน้า ให้กับคนใกล้ตัว ใช้เองก่อน พอซาบซึ้งใจก็ นำไปบอกเพื่อน ๆ คนที่รู้จัก แค่นั้น โดยแก่นแท้โครงสร้างทางการตลาด เค้าออกแบบไว้ ธรรมดาสามัญมาก ไม่ต้องมีความรู้ หรือ จบเอกสาขาใด ด้านใด ก็ทำธุรกิจ กับบริษัทฯ นี้ได้
  • ลงทุนก็น้อย(900 บาท ทดลองทำ 3 เดือนคืนเงินเต็มจำนวน),สินค้าก็มีมาตรฐาน ISO 14001 รับรองว่าเป็นมิตรต่อร่างกายมนุษย์และสิ่งแวดล้อมรอบ ๆตัวเรา,สำนักงานอาหารและยาก็รับรองอย่างถูกสุขลักษณะ ,สินค้า ก็มี ตั้งแต่: ไม้แคะหู,ผ้าอ้อม,ขวดนม,กาแฟ,ขนมปัง,หลอดไฟ,เตาไมโครเวฟ,เครื่องปิ้งขนมปัง,เครื่องซักผ้า,อาหารแห้ง,ซอสปรุงรส,ผลไม้กระป๋อง,นาฬิกา,อาหารเสริมสุขภาพ,อาหารลดความอ้วน,เครื่องกรองน้ำ ได้รับ 3 รางวัลจากสถาบันเกี่ยวกับน้ำของโลก,เครื่องกรองอากาศ ที่กรองอากาศ เชื้อโรคที่เล็ก กว่า เซลเม็ดเลือดขาว และ เซลเม็ดเลือดแดง ได้,เสื้อผ้า,ประกันภัย,อุปกรณ์เกี่ยวกับงานเซฟตี้ทางภาคสนาม และ อีกกว่า 600 รายการ จนไม่รู้จะสร้างสินค้าตัวใดมาแข่งขันด้านการตลาด กับ บริษัทฯนี้อีกแล้ว
  • โครงสร้างทางการตลาดของบริษัทฯนี้ก็แค่ ชวนคนเข้ามาร่วมใช้สินค้าต่าง ๆ และแบ่งปันธุรกิจให้กับคนที่เรา รัก และ รู้จัก ไม่ต้องไปเร่ขาย เคาะตามประตูใดๆ ขายเหมือนคนโบราณเวลามีของดี ๆ เค้าก็จะแบ่งปัน แลก กันใช้ ก็แค่นั้น เอง เช่น
  1. คุณชวน คนมา 2 คน คุณก็จะมีรายได้เมื่อคุณทำให้ 2 คนนี้มีธุรกิจเป็นของตนเองได้ เดือนละ ประมาณ 3-4 หมื่น บาท
  2. คุณ ชวน 3 คน แล้ว 3 คนสร้างธุรกิจได้เอง คุณก็มีรายได้ ต่อเดือนประมาณ 4-7 หมื่นบาท
  3. ถ้าคุณ ชวนได้ 20 คน แล้ว 20 คน คุณสามารถทำให้เค้ามีธุรกิจเป็นของเค้าเองได้ คุณจะมีรายได้เดือน ละ 2 ล้าน บาท ขึ้น ภายในชาตินี้ ไม่ต้องรอชาติหน้า
  • ธุรกิจ บริษัทฯ นี้ เป็นธุรกิจแห่งการช่วยเหลือผู้คน เพราะฉะนั้น เราผู้เป็นผู้เริ่มต้นก่อร่างสร้าง ธุรกิจ นี้ขึ้นมาต้องสร้างใจตัวเอง เสียก่อนว่าเรา"จะเอาธุรกิจ ดี ๆไปให้ คนที่เรามีความปรารถนาดีจะให้เค้าซึ่งคนเหล่านั้น ก็ต้องเป็นคนใกล้ตัวกับเรา ไม่ใช่คนอื่นที่เราไม่รู้จัก" นี่ก็คือเจตนาเริ่มแรกของผู้ก่อสร้างบริษัทฯ แห่งนี้ขึ้นมาเมื่อ กว่า 50 ปี ก่อน

เวลาวิ่งเร็วกว่าลมหายใจคนเราเสียอีก บางครั้งเราก็ต้องให้หัวใจของเราช่วยตัดสินใจเพราะลำพังรอให้สมองสั่งการคงช้า อย่าปล่อยให้เวลา ฆ่าเราลงไปเรื่อย ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่เมื่อมีโอกาส หรือ จังหวะใด ๆ ผ่านเข้ามาผมจะไม่รีรอ ที่จะตอบรับ ขอให้โอกาสนั้น นำมาซึ่งสิ่งดีงาม และ ทำให้ชีวิตมีค่าขึ้น แค่นั้นคนเราไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าหรอก เผลอแพล็บเดียวก็จะลงไปนอนกันบนหลุม(........) กันหมดแล้ว วันนี้ก็ฟากไว้แค่นี้น๊ะครับ สวัสดี :-D ขอให้ ร่ำรวยทุกคนที่แวะมาอ่าน บล็อคนี้ครับ

สุกิจ บุญปก

โทร:+66(0)878330089

e-mail:bpeter.p2@gmail.com

web-site:http://www.suphaphat.blogspot.com/

Wednesday, February 4, 2009

MLM/Multi Level Marketing

โครงสร้าง ของระบบธุรกิจ เครือข่าย

โลกเราทุกวันนี้ ณ. พ.ศ. นี้ ระบบการเงิน เศรษฐกิจ สังคม การเมือง การทหาร ธุรกิจ ล้วนประสพปัญหา กันทุกหย่อมหญ้า แม้แต่ภาครัฐของทุกประเทศก็เปลี่ยนมือผู้บริหารประเทศกันเป็นว่าเล่น ฤา โลกเราจะเกิดประวัติซ้ำรอย กับ วิกฤตก่อนเกิดสงครามโลก ทั้ง ครั้งที่ 1 และ ครั้งทั่ 2 (ถ้าใครเคยศึกษา ประวัติศาสตร์ สงครามโลกทั้ง สองครั้งจะต้องคิดเหมือนผมว่าอะไร ๆมันช่างละม้ายคล้ายคลึงกันจังเลย ยิ่งพูดยิ่งเครียดเรามาคุยกันเรื่องระบบธุรกิจ เครือข่าย หลายชั้น เป็นธุรกิจที่มีอยู่คู่กับโครงสร้างธุรกิจ ของโลกเรามาแต่นมนานแล้ว บางธุรกิจก็ใช้ระบบนี้มาโดยรู้และศึกษามา บางภาคธุรกิจก็ใช้โดยไม่รู้ตัวว่านี่คือ"โครงสร้างของธุรกิจเครือข่ายหลายชั้น MLM/Multi Level Marketing" ระบบการแตกตัวของการตลาดแบบ MLM นั้น ช่างน่าอัศจรรย์จริง ๆ ที่ (ลูกค้า 1 คน) ---->แตกออกไปเป็น--->(ลูกค้า 5 คน)---->จาก 5 คน แตกออกไปเป็น (ลูกค้า 25 คน)----> จาก 25 คน แตกออกไปเป็น (ลูกค้า 100 คน)---->จาก 100 คน แตกออกไปเป็น(ลูกค้า 1,000 คน)----->จาก 1,000 คน แตกออกไปเป็น (ลูกค้า 10,000 คน) โดยแต่ละคน ซื้อสินค้า คนละไม่กี่พันบาท ยอดการขายรวมจะมีมูลค่าเป็นเงินหลายล้านบาท นี่คือ ความอัศจรรย์ของแผนการตลาด แบบ MLM มี บริษัทฯ ยักษ์ใหญ่ บริษัทหนึ่งที่มีอายุยาวนานมากว่า 50 ปี ในประเทศไทย เข้ามาว่านเมล็ดพันธ์ไว้ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2530 ก็กว่า 20 ปี แล้วเช่นกัน เมื่อ ปี พ.ศ. 2550 บริษัทฯนี้ปิดปี บัญชีที่ 10,150 ล้านบาท มี ผู้เข้าร่วมธุรกิจโดยการสมัครเป็นผู้จำหน่าย(ค่าสมัคร 900 บาท คืนได้ภายใน 90 วัน) 300,000 คน และมี ลูกค้าที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียว 400,000 คน จำนวนประชากรไทย เมื่อ ปี พ.ศ.2550 มี ทั้งหมด 67-68 ล้านคน เป็นผู้ที่อยู่ในวัยทำงาน และผู้พึงมีรายได้(อายุ 15-59 ปี) อยู่ 47 ล้าน คน เท่ากับว่าในตลอด 20 กว่าที่บริษัทฯ ยักษ์ใหญ่นี้เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยมีคนไทยร่วมอยู่ในธุรกิจของบริษัทฯ นี้ แค่ 1.4% ของประชาการที่พึงมีรายได้ และคนในวงแค่ 700,000 คนเท่านั้นที่ทำให้ ปี บัญชีของบริษัทฯนี้ปิด ที่ 10,150 ล้านบาท เหลือเชื่อจริง ๆ ครับ แผนการตลาดของ ธุรกิจนี้ก็ไม่ซับซ้อนจนต้องจบปริญญา อะไร? ทุกคนสามารถทำธุรกิจนี้ได้โดย"ใช้ สินค้า ซัก ไม่กี่ตัว แล้ว นำความดีของผลิตภัณฑ์ ตัวนั้นไปบอกกับ ญาติสนิท มิตรสหาย ไม่ต้องไปเคาะประตู เร่ขาย เหมือนสินค้าหลายตัวในท้องตลาดที่กำลังทำอยู่ บริษัทฯนี้ เค้าไม่ได้ออกแบบธุรกิจไว้แบบนั้น ไม่ยากเกินไป และ จะเป็นการทำลาย ขวัญและกำลังใจของผู้ที่จะเข้ามาเป็นตัวแทน(หุ้นส่วนในธุรกิจ) ของบริษัทฯ นี้ เมื่อไม่สามารถแนะนำสินค้าให้คนที่เรานำไปเสนอได้ บริษัทฯ นี้เค้าได้วางโครงสร้างการเดินตลาดในลักษณะ "เข้าหาคนที่เรารู้จักอยู่แล้ว สนิทอยู่แล้ว รัก และ นับถือ มีความเป็นกันเองอยู่แล้วในการมี ปฎิสัมพันธ์กันในแต่ละวัน" ไม่มีความจำเป็นที่จะต้อง กดดัน บีบเค้นศักยภาพใด ๆในการที่จะต้องไปพบลูกค้า(เหมือนแผนการขาย การตลาดในโลก ปัจจุบัน) บริษัทฯนี้เค้าทำลายระบบแบบนั้น ทิ้งอย่างไม่น่าเป็นไปได้ เมื่อพูดถึงแผนการตลาดที่ดี แบบนี้แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะต้องพูดถึง "ผลิตภัณฑ์/สินค้า" ของ บริษัทฯ นี้ ที่มีกว่า 500 รายการ และ พันธมิตรทางการค้า อีกกว่า 100 รายการ เป็นสินค้าอุปโภค และ บริโภคที่ต้อง ใช้ ดื่ม กิน ที่ต้องหมดไปทุกวัน และ สิน ค้าของบริษัทฯนี้ก็ รับประกันความพอใจ ถ้าไม่พอใจด้วยเหตุผลที่เป็นธรรม บริษัทฯยินดี คืนเงินเต็ม 100 % ใน 30 วัน เห็นมั๊ย? ครับ รับประกันความเสี่ยงทุกรูปแบบ ทั้ง ธุรกิจ และ ตัวสินค้า โดย เราผู้เป็น หุ้นส่วน ลง ทุน 900 บาท ใช้สินค้าบ้าง พอสมควร
  1. ไม่ต้องสร้าง เว็บไซด์
  2. ไม่ต้องเปิดบริษัทฯ
  3. ไม่ต้องจ้างฝ่ายจัดซื้อ
  4. ไม่ต้องมีลูกจ้าง
  5. ไม่ต้องมีฐานการเงินเพื่อลงทุนสูง ๆ
  6. ไม่ต้องทำ บัญชี
  7. ไม่ต้องจัดส่งสินค้า
  8. ไม่ต้อง...ไม่ต้อง....ไม่ต้อง

ไม่ต้องทำอะไรที่ ต้องทำเหมือนในการที่จะมีกิจการ ที่เป็นกิจการ ปกติ ที่ต้องทำ(ซึ่งต้องทำทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น และ อีกมากมาย) ทำอย่างเดียว"ใช้สินค้าที่มีคุณภาพดีที่สุด แล้ว บอกต่อไปยัง คนที่เรารักและปราถนาดี แค่นั้น(ขาย...ความประทับใจ :-D) ขายได้ บริษัทฯที่เราเข้าเป็นหุ้นส่วน( ที่ เงิน 900 บาทคืน เงินค่าหุ้นเต็ม 900 บาทภายใน 90 วัน ถ้าไม่อยากร่วมธุรกิจแล้ว)จะให้ผลตอบแทนในความเอื้อเฟื้อของเราที่นำผลิตภัณฑ์อันส่งคุณค่า และ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้กระจายเข้าไปอยู่ในหัวใจของคนไทยที่อยากมีคุณภาพชีวิต และ สุขภาพทั้งทางการเงิน และ ร่างกาย ถ้าขายไม่ได้ก็ไม่มีใครมาบีบคอเรา หรือมาบังคับอะไร ๆ กับเราได้ เพราะ มี องค์กร ของรัฐเข้ามาปกป้อง ผู้บริโภค อยู่แล้ว ไม่ว่าจะ เป็น อย.(องค์การอาหาร และ ยา),สคบ.(สำนักงานคุ้มครองผู้อุปโภค และ บริโภค),มาตรฐานสินค้าด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่มีใบอนุญาตจาก การะทรวงอุตสาหกรรม(มาตรฐาน ISO 14001 เหล่านี้เป็นต้น

LINK Product

เหล่านี้ล้วนเป็น โครงสร้าง ธุรกิจเครือข่ายหลายชั้น MLM/Multi Level Marketing ที่ผมภูมิใจนำเสนอมาให้รู้กันแบบ พอสมควรน๊ะครับ หากสนใจอย่างไร ก็ติดต่อโดยตรงที่

  • Tel:+66(0)878330089
  • e-mail:bpeter.p2@gmail.com

สวัสดีครับ

สุกิจ บุญปก

วีดีโอผลิตภัณฑ์ เชิญชมตัวอย่างได้ครับ :-D

อิสระภาพ แห่ง ธุรกิจ(Bussiness of Life)

แสงทอง

แสงทอง
ชีวิตคนเรา เปรียบได้ดังแสงทองยามเช้า

Welcome to สุกิจ's web-log

สวัสดีครับ(Sawad-dee-krab)
ยินดีต้อนรับ เพื่อนๆและ พี่ ๆ น้องๆ ทุกคน ที่แวะเข้ามาเยียมชม เว๊บ-บล็อค ของผมครับ ผมจัดทำเว็บนี้ขึ้นมามีเจตนาจะเสนอข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวทุกวงการ ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษให้กับเพื่อนฝูง ที่แวะเข้ามาเยี่ยมชม หากต้องการจะให้ประกาศหรือแนะนำผลิตภัณฑ์สินค้าใด ๆ ก็ยินดียิ่งหาก เว็บนี้จะเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลใด ๆที่มีประโยชน์ทางผมเองจะมีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ปัจจุบันผมเป็น"มัคคุเทศก์(ภาษาอังกฤษ) ,เป็นนายหน้าประกันวินาศภัย และ เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ amazon.com" หากสนใจผลิตภัณฑ์ในเครือ amazon.com ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณอิเล็คทรอนิค,เสื้อผ้า,ของเด็กเล่น,กล้องถ่ายรูป,ดาวน์โหลด หนัง,ดาวน์โหลดเพลง และ อื่น ๆอีกมากมาย ในเว็บนี้มี ลิ้งค์ มากมายให้เพื่อน ๆได้ เข้าไปเยี่ยมชม ขอเชิญทุกท่านเลยครับ
สวัสดีครับ

สุกิจ บุญปก( ปีเตอร์ )
e-mail:
bpeter.p2@gmail.com

boonplokthaitrip_2008@windowslive.com
phoenix_bk5@yahoo.com

web-site visiting:
(1)ร้านหนังสือของสุกิจ(Sukij's book store)
(2)ร้านของเด็กเล่นของสุกิจ(Sukij's kid-toys store)
(3)ร้านเสื้อผ้าของสุกิจ(Sukij's apparel & acessories)
(4)ร้านอุปกรณ์อิเล็คทรอนิค(Sukij's electronic shop)
(5)ดาวน์โหลด ภาพยนต์(ต่างประเทศ)
(6)ดาวน์โหลด mp3(Mp3 Download)
(7)เว็บชมรมคนรักหนัง(Fan club movies)
(8)เว็บไซต์ ช่องทางสร้างอาชีพ (Occupation made)

And welcome for the foreigner who visit my web-log please entry to my web-site(english language) as below:-D,thank you for everybody.
web-site entry:
(1)www.pattayaorganize.blogspot.com

(2)www.pattayavariety.blogspot.com

Regarding,

Mr.Sukij(Peter) Boonplok






Powered By Blogger

สุกิจ's search

ชื่นตา สบายใจ

Followers

About Me

My photo
ฮับ อิ้งค์(HUB INCORPORATED)http://hubincorporated.blogspot.com และ HUB INC.,(http://hubinc.blogspot.com) เป็น web-log ที่ อยู่ภายใต้การ บริหาร ของ บริษัท สุภาภัทร จำกัด ดำเนินกิจการ โดย คุณ สุกิจ บุญปก ประกอบกิจการ: นายหน้าประกันวินาศภัย(ประกันรถยนต์,ที่อยู่อาศัย,อาคารพาณิชย์,โรงแรม,คอนโดมีเนี่ยม,ประกันธุรกิจ,ประกันการขนส่ง ทางบก และ ทางทะเล),บริการจดทะเบียน บริษัท จำกัด-ห้างหุ้นส่วนจำกัด,บริการ รถเช่า(ขับเอง),รถรับ- ส่ง(แบบมีคนขับ/ทั้งไปรับ-ส่งสนามบิน และ รับ-ส่งทั่วประเทศ),รับจอง-จำหน่ายตั๋วเครื่องบิน ทั้งภายใน-ต่างประเทศ,รับปรึกษา เรื่องวีซ่า ทั้งภายในประเทศไทย และ ต่างประเทศ(รวมถึงการต่ออายุ วีซ่า),เป็นมัคคุเทศก์(ภาษาอังกฤษ)สำรองที่พัก ภายในประเทศไทย-โปรแกรม ทัวร์ ภายในประเทศไทย,ทำธุรกิจขายปลีก-ขายส่ง สินค้าอุปโภค บริโภค(ธุรกิจขายตรงเครือข่ายหลายชั้น/Multi Level Marketing สนใจติดต่อ:+66(0)878330089 e-mail:bpeter.p2@gmail.com website:www.suphaphat.blogspot.com web-log: antibirdgel.wordpress.com sci09.wordpress.com Supaphat company limited. Operated by Mr.Sukij(Peter)Boonplok (Business-insurance) Please contact: +66 (0) 878330089:+66(0)38731735: e-mail: bpeter.p2@gmail.com, sci_09@hotmail.com web-log: sci09.wordpress.com.